คำนวณผ่อนบ้านอย่างไร ถึงจะเหมาะสมและไม่เกินกำลังตัวเอง

ถ้าคุณไปสอดส่องมองหาบ้านที่ตรงตามความฝันของคุณจนพบ และได้ทราบถึงราคาขายของบ้านที่คุณต้องการแล้ว คำถามข้อแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของคนส่วนใหญ่ที่อยากมีบ้านก็คือ “ฉันจะผ่อนไหวหรือเปล่า?” แต่การจะได้คำตอบในเรื่องนี้มานั้น คุณจำเป็นที่จะต้องรู้จักการคำนวณผ่อนบ้านก่อน แล้วเราจะคำนวณอย่างไรที่จะช่วยให้เราจ่ายไหวในแบบที่ไม่หนักเกินไปกันล่ะ? วันนี้เรามีเทคนิคดี ๆ มาฝาก ตามไปดูกันเลย!

1. คำนวณผ่อนบ้านจากราคาบ้านที่คุณต้องการซื้อ

สำหรับวิธีคำนวณแรกนี้ สิ่งที่คุณจะต้องทำก่อนจะเริ่มทำการคิดคำนวณก็คือ การตอบคำถามเหล่านี้ให้ได้เสียก่อน นั่นคือ

• คุณมีเงินเก็บหรือมีเงินดาวน์บ้านมากน้อยแค่ไหน พอที่จะจ่ายเป็นเงินก้อนแรกให้กับเจ้าของโครงการหรือไม่
• ความสามารถในการกู้เงินซื้อบ้านจากธนาคารของคุณมีมากน้อยแค่ไหน กู้ได้สูงสุดเท่าไหร่
• จากรายได้ที่คุณมี จะรับภาระผ่อนได้เดือนละเท่าไหร่ และยืนระยะการผ่อนบ้านในราคาประมาณนี้ไปได้ถึงเมื่อไหร่

เมื่อคุณเริ่มตอบคำถามเหล่านี้ได้บ้างแล้ว ก็ลองมาดูตัวอย่างการคำนวณผ่อนบ้านแบบแรกกัน สมมติว่า คุณสุชาติวางแผนจะซื้อบ้านสักหลังเป็นแบบทาวน์เฮ้าส์ ราคาอยู่ที่ 625,000 บาท จึงได้ไปขอทำเรื่องกู้กับธนาคาร ซึ่งธนาคารก็ยินดีให้คุณสุชาติกู้ได้ในอัตรา 80% ของราคาขาย ซึ่งนั่นเท่ากับว่าคุณสุชาติมีสิทธิ์กู้ได้ในวงเงิน 500,000 บาท

จากตรงนี้หมายความว่าคุณสุชาติจะต้องเตรียมเงินส่วนที่เหลือที่จะต้องใช้เป็นเงินดาวน์ไว้ 20% ของราคาบ้าน นั่นก็เท่ากับ 125,000 บาท ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคาร สมมติว่า ธนาคารคิดในอัตรา 6.5% ต่อปี สิ่งที่คุณสุชาติจะต้องคิดก็คือ ต้องการจะผ่อนชำระหนี้ตรงส่วนนี้กี่ปี เช่น

• ผ่อน 20 ปี เงินที่ต้องชำระต่อเดือนก็อยู่ที่ 3,728 บาท
• ผ่อน 15 ปี เงินที่ต้องชำระต่อเดือนก็อยู่ที่ 4,356 บาท
• ผ่อน 10 ปี เงินที่ต้องชำระต่อเดือนก็อยู่ที่ 5,677 บาท

โดยปกติแล้วถ้าผู้กู้อายุยังไม่มาก และมีรายได้น้อยถึงปานกลาง ก็มักจะเลือกผ่อนในระยะเวลาที่นาน 15 – 20 ปี แต่ถ้าผู้กู้มีอายุเริ่มมากแล้วก็คงต้องรีบปิดยอด ให้เน้นดาวน์เยอะและผ่อนสั้นจะเหมาะสมกว่านั่นเอง

2. คำนวณผ่อนบ้านจากประเมินรายได้ของตัวเอง

อีกหนึ่งวิธีที่สามารถใช้เพื่อการคำนวณสำหรับผ่อนบ้านได้เหมือนกัน ก็คือ ดู “รายได้” ของตัวเองเป็นหลัก โดยให้เอารายได้ของเรามาพิจารณาความเหมาะสมต่าง ๆ อย่างเรามีรายได้เท่านี้ ควรจะซื้อบ้านแบบใด ในราคาเท่าไหร่ ซึ่งวิธีการนี้มักเป็นวิธีการคำนวณที่คนใช้กันเยอะ เพราะถ้าคิดแบบนี้โอกาสที่จะกู้ธนาคารผ่านก็มีมากขึ้น

การประมาณการรายได้ของตัวเราเอง จะช่วยทำให้เราทราบถึงวงเงินกู้ และเงินที่เราจะต้องผ่อนชำระต่อเดือน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วธนาคารมักจะให้กู้ในวงเงินประมาณ 50 เท่าของรายได้ที่เป็นรายได้ประจำ แต่ถ้ากรณีประกอบอาชีพอิสระ ธนาคารอาจให้กู้ได้ไม่เกิน 30 เท่าของรายได้เฉลี่ยรายเดือนที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว ลองมาดูตัวอย่างการคำนวณผ่อนบ้านในวิธีนี้เพื่อความเข้าใจเพิ่มเติมกัน!

สมมติให้สุชาติมีรายได้ประจำเดือนละ 20,000 บาท ธนาคารให้กู้ 50 เท่าของรายได้ การคำนวณก็จะออกมาเป็น 50 X 20,000 = 1 ล้านบาท ธนาคารคิดดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี ถ้าสุชาติต้องการผ่อนบ้าน 20 ปี ก็ต้องผ่อนเดือนละ 7,500 บาท ถ้าต้องการผ่อนต่อเดือนน้อยลง ก็ต้องจ่ายนานขึ้น

หากกรณีธนาคารให้กู้สูงสุดได้เพียง 25 เท่าของรายได้ สุชาติจะได้วงเงินเพียง 5 แสนบาท ถ้าสุชาติจะซื้อบ้านราคา 1 ล้านก็จำเป็นที่จะต้องทำการกู้ร่วมกับภรรยาที่มีรายได้ 20,000 บาทเท่ากัน ถึงจะสามารถได้วงเงิน 1 ล้านบาท มาซื้อบ้านนั่นเอง

นี่เป็นวิธีการคำนวณผ่อนบ้านแบบคร่าว ๆ ที่มักจะใช้กันทั่วไป ซึ่งในแบบที่ 2 นั้นจะเป็นรูปแบบการคำนวณที่ได้รับความนิยมมากกว่า ใครที่กำลังจะซื้อบ้านลองนำไปใช้กันดูนะคะ หรือหากคุณต้องการการคำนวณที่แม่นยำและง่ายดายกว่าคำนวณด้วยตัวของคุณเองก็สามารถให้เครื่องคำนวณผ่อนบ้านของ DDproperty.com ช่วยคำนวณให้ได้อย่างง่ายดาย แล้วคุณจะซื้อและผ่อนได้แบบเหมาะสมไม่เกินกำลังของตนเอง